การสอนครั้งที่ 1 นักเรียนปีหนึ่ง!!!! เข้ามาเรียนได้เลย

สวัสดีนักเรียนปีหนึ่งทุกๆคนอีกครั้ง หลังจากที่ได้อ่าน คุณสมบัติของนักปรุงยาที่ดีแล้ว ศาสตราจารย์จะถามนะนักเรียน


คำถามที่ 1

ทำไมนักปรุงยาที่ดีต้องมีความแม่นยำในการคำนวนปริมาณส่วนผสมของยาแต่ละตัว

บ้านไหนตอบได้เร็วที่สุด เอาไปเลย 10 คะแนน คนถัดไปได้บ้านละ 1 คะแนน

ศาสตราจารย์จะกลับมาดูอีกครั้งและจะสรุปคะแนนให้ และจะขึ้นคำถามที่ 2

เพราะอาจจะเป็นอันตราย

เพราะอันตราย

เพราะว่า ถ้านักปรุงยาใส่ส่วนผสมของยาไม่เหมาะสม อาจใส่มากไปหรือน้อยเกินไป ก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้ยาก็ได้
ซึ่งอาจจะไม่สามารถหาวิธีแก้ไขได้ทันเวลา จะทำให้เกิดอันตรายอย่างมาก
ดังนั้น นักปรุงยาที่ดีต้องมีความแม่นยำในการใส่ส่วนผสมของยา

เยี่ยม คำตอบคือ อาจทำให้เกิดอันตรายได้ขึ้นนั้นเอง

nexogifaz2 (Miss.พงษ์ไพฑูรย์) ตอบคำถามได้เยี่ยมจริงๆ

ให้บ้านฮัลเฟิลฟัฟ 10 แต้ม!!! สำหรับผู้ตอบคำถามคนแรก

และให้บ้านฮัลเฟิลฟัฟ อีก 1 แต้ม และเรเวนคลอ 1 แต้ม

รวมคะแนน บ้านฮัลเฟิลฟัฟ 11 แต้ม และเรเวนคลอ 1 แต้ม

คำถามข้อที่ 2 : เพราะเหตุใดนักปรุงยาที่ดีควรมีความอดทนสูง

จากคำถามข้อที่ 1 ทำไมนักปรุงยาที่ดีต้องมีความแม่นยำในการคำนวนปริมาณส่วนผสมของยาแต่ละตัว

คำตอบ
จากกฎข้อที่ 1 นักปรุงยาที่ดีต้องมีความแม่นยำในการคำนวนปริมาณส่วนผสมของยาแต่ละตัวหากมีมากหรือน้อยไปอาจเป็นอันตราย

จากคำถามข้อที่ 2 เพราะเหตุใดนักปรุงยาที่ดีควรมีความอดทนสูง

เพราะ นักปรุงยาที่ดีควรมีความอดทนสูง เพราะยาบางชนิดต้องใช้เวลาในการทำนานบางทีต้องอยู่หน้าหม้อเป็นวันๆ

Malfoy ตอบคำถามข้อแรกไม่ทันจึงไม่สามารถคิดคะแนน
แต่สามารถตอบคำถามข้อที่ 2 เป็นคนแรกและเป็นคนเดียวได้

ให้บ้านสลิธีริน 10 แต้ม!!!

คำถามข้อที่ 3 ทำไมนักปรุงยาที่ดีต้องเป็นคนมีจิตใจเมตตาช่วยเหลือผู้อื่นได้ทุกเมื่อ

คำถามข้อที่ 3 ทำไมนักปรุงยาที่ดีต้องเป็นคนมีจิตใจเมตตาช่วยเหลือผู้อื่นได้ทุกเมื่อ

คำตอบ
อันนี้ไม่ได้บอกไว้ในกฎขอตอบเองละกัน
จากกฎข้อที่ 6 )นักปรุงยาที่ดีต้องเป็นคนมีจิตใจเมตตาช่วยเหลือผู้อื่นได้ทุกเมื่อ
เพราะ เราสามารถนำยาที่ปรุงสำเร็จและมีประสิทธิภาพมาใช้กับผู้ป่วยหรือผู้ที่โดนคำสาป ฯลฯ มาช่วยเพื่อบรรเทาอาการ หรือ ถอนพิษ หรือ แก้คำศาป อะไรแบบนี้ใช่มั้ย ค่ะ -_-

จากคำถามข้อที่ 3 ทำไมนักปรุงยาที่ดีต้องเป็นคนมีจิตใจเมตตาช่วยเหลือผู้อื่นได้ทุกเมื่อ

เพราะว่า นักปรุงยาที่ดีต้องมีน้ำใจ มีความเมตตา และปรุงยาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อน เจ็บป่วย จากพิษหรืออะไรที่ร้ายแรงมีโทษของโลกเวทมนตร์ เพื่อให้พ่อมดแม่มดทั้งหลายไม่เป็นอันตรายจากพิษพวกนั้น

ให้บ้านสลิธีริน10 แต้ม!!! สำหรับผู้ตอบคำถามคนแรก

และให้บ้านฮัลเฟิลฟัฟ 1 แต้ม

รวม ให้บ้านสลิธีริน10 แต้ม!!! บ้านฮัลเฟิลฟัฟ 1 แต้ม

คำถามข้อที่ 4 ทำไมนักปรุงยาที่ดีควรเป็นคนช่างสังเกตสิ่งรอบข้างที่อยู่ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

คำถามข้อที่ 4 ทำไมนักปรุงยาที่ดีควรเป็นคนช่างสังเกตสิ่งรอบข้างที่อยู่ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

เพราะว่า การสังเกตรอบตัวเราเพื่ออาจจะหาสุตรยาใหม่ๆ หรือหาส่วนผสมใหม่ๆ เพื่อนำมปรุงยาค่ะ (เกี่ยวมั่ยเนี่ย)

คำถามข้อที่ 4 ทำไมนักปรุงยาที่ดีควรเป็นคนช่างสังเกตสิ่งรอบข้างที่อยู่ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

เพื่อที่จะได้ฝึกการเป็นคนช่างสังเกตุ และ เพื่อนำไปพัฒนาในการปรุงยาต่างๆด้วย
และเพื่อนำยาที่ปรุงได้ นั้นไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย

เพราะว่าการเป็นนักปรุงยาที่ดีนั้น ควรที่จะต้องสังเกตสิ่งที่อยู่รอบตัวเสมอ เพื่อที่จะได้คิดค้นสูตรใหม่ๆๆๆไว้สำหรับปรุงยาสม่ำเสมอ และก็เป็นการฝึกประสบการณ์การปรุงยาด้วย (เกี่ยวกันป่าวหว่า ตอบเอง งงเอง )

คำถามข้อที่ 4 ทำไมนักปรุงยาที่ดีควรเป็นคนช่างสังเกตสิ่งรอบข้างที่อยู่ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

- สาเหตุที่นักปรุงยาที่ดีต้องเปนคนช่างสังเกตุก็เพราะว่า สิ่งต่างๆรอบตัวมักเปลี่ยนแปลงยุเสมอ เพราะฉะนั้นหากนักปรุงยาไม่เอาใจใส่ต่อสิ่งเหล่านั้นแล้ว ก็อาจจะทำให้พลาดสิ่งต่างๆไปมากมาย และไม่มีไอเดียที่จะคิดสูตรปรุงยาใหม่ๆขึ้นมาอีกด้วย และยังเป็นการก้าวตามทันความเปลี่ยนแปลงในโลกเวทมนตร์อีกด้วย

คำถามข้อที่ 4 ทำไมนักปรุงยาที่ดีควรเป็นคนช่างสังเกตสิ่งรอบข้างที่อยู่ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

ตอบ เพราะถ้าหากเราเปนคนที่ช่างสังเกตุสิ่งต่างๆยุเสมอ ก็จะทำให้เราได้พบเจอกับสิ่งแปลกๆใหม่ๆ จนทำให้เราสามารถนำมาพัฒนาการปรุงยาของเราให้ดีขั้นได้ และนอกจากนั้นก็ทำให้เราได้รู้จักคิดค้นสูตรยาใหม่ๆ ออกมาได้อย่างต่อเนื่อง

คำถามข้อที่ 4::ทำไมนักปรุงยาที่ดีควรเป็นคนช่างสังเกตุสิ่งรอบข้างที่อยู่ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

= เพราะว่าการเป็นคนช่างสังเกตุจะทำให้เราได้พบสิ่งแปลกใหม่ และธรรมชาติของเราเมื่อพบอะไรแปลกๆก็อยากรู้อยากลอง นักปรุงยาจึงต้องสังเกตุสิ่งที่แปลกใหม่เพื่อนำมาหาสูตรยาใหม่ๆในการรักษา

คำถามข้อที่ 4::ทำไมนักปรุงยาที่ดีควรเป็นคนช่างสังเกตุสิ่งรอบข้างที่อยู่ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

คือว่า ถ้าเราเป็นคนช่างสังเกตและสนใจสิ่งรอบข้างจะทำให้เราเจอสิ่งใหม่ๆรอบตัวและสิ่งเหล่านั้นอาจจะก่อให้เกิดแรงบัลดาลใจให้เราหาวิธีการปรุงยาแบบใหม่ทันยุคทันเหตุการณ์ตรงกับความต้องการของพ่อมดแม่มดในยุคปัจจุบันขึ้นมาได้ค่ะ ศจ.

เยี่ยมมากทุกๆคน คำตอบที่ได้เป็นการตอบที่ตั้งใจมาก และถูกต้อง

ให้คะแนนบ้านสลิธีริน 10 แต้ม!!! สำหรับผู้ตอบคนแรก
คะแนนอีก 1 แต้ม สำหรับผู้ตอบเป็นคนถัดไป

บ้านสลิธีริน 1 แต้ม
บ้านกริฟฟินดอร์ 3 คน ได้ 3 แต้ม
บ้านฮัฟเฟิลฟัฟ 1 แต้ม และบ้านเรเวนคลอ 1 แต้ม

รวมคะแนน บ้านสลิธีริน 11 แต้ม บ้านกริฟฟินดอร์ 3 แต้ม บ้านฮัฟเฟิลฟัฟ 1 แต้ม และบ้านเรเวนคลอ 1 แต้ม

คำถามข้อที่ 5 : นักปรุงยานั้นสามารถประยุกต์ในการคิดค้นสูตรใหม่ๆได้หรือไม่? มีผลอย่างไร? บางครั้งไม่ทำตามในทฤษฎีจะเกิดผลอย่างไร? และนักปรุงยาควรทำตามขั้นตอนของทฤษฎีทุกครั้งหรือไม่? เพราะอะไร? ความรู้ที่ได้อาจเป็นความรู้ใหม่ควรทำอย่างไร? และถ้าเกิดข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างนักปรุงยาควรทำอย่างไร? ข้อนี้ให้คะแนนสำหรับผู้ที่ตอบได้ดีที่สุดเอาไปเลย 8 คะแนน

คำถามข้อที่ 6 : เมื่อเกิดการปรุงยาผิดพลาด มีวิธีแก้ไขอย่างไร? ข้อนี้ใครตอบคนแรกได้ 5 คะแนน คนต่อไป 1 คะแนน

คำถามข้อที่ 7 : รากเดซี่ ในการปรุงยาทุกครั้ง ทุกสูตร (ยกเว้นน้ำยาแมคทิว) ควรหั่นและซอยเป็นชิ้นๆเท่ากันหรือไม่? เพราะอะไร? ข้อนี้เป็นความรู้รอบตัว ตอบถูกได้คะแนนพิเศษ 2 คะแนน เพราะข้อนี้จะเป็นบทเรียนครั้งต่อไปนะนักเรียน

จะตอบข้อไหนก่อนก็ได้หรือจะแยกตอบทีละข้อก็ได้นะนักเรียน

คำถามข้อที่ 6 : เมื่อเกิดการปรุงยาผิดพลาด มีวิธีแก้ไขอย่างไร?

ตอบ
ยาที่ผิดพลาดไม่สามารถแก้ไขได้ ให้ทำลายทิ้งค่ะด้วยวิธีอะไรก็ได้ เพราะถ้าหากเอามาใช้ปรุงยาต่อจะเป็นอันตรายค่ะ

คำถามข้อที่ 7 : รากเดซี่ ในการปรุงยาทุกครั้ง ทุกสูตร (ยกเว้นน้ำยาแมคทิว) ควรหั่นและซอยเป็นชิ้นๆเท่ากันหรือไม่? เพราะอะไร?

ควรหั่นและซอยเป็นชิ้นๆให้เท่ากันเพราะ รากเดซี่ถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรุงยา (ส่วนประกอบอื่นๆก็สำคัญเช่นกัน)ถ้าหากเราใส่ขนาดที่ไม่เท่ากันลงไปอาจจะทำให้ส่วนผสมเกินหรือขาดได้ อาจจะทำยาที่ปรุงขึ้น ไม่มีประสิทธิภาพและอาจะเป็นอันตรายค่ะ

จากคำถามข้อที่ 1
เพราะอาจจะเป็นอันตรายและอาจจะทำให้ผลลัพธ์ของยาผิดเพี้ยนไป
จากคำถามข้อที่ 2
เพราะต้องอยู่หน้าหม้อยาเป็นวันๆๆ
จากคำถามข้อที่ 3
เพราะเราสามารถนำยาที่ปรุงสำเร็จแล้วและมีประสิทธิภาพมาใช้รักษาผู้ป่วยที่ต้องคำสาป
จากคำถามข้อที่ 4
เพราะจะได้เกิดความคิดที่จะคิดสูตรยาใหม่ๆ

คำถามข้อที่ 5 : นักปรุงยานั้นสามารถประยุกต์ในการคิดค้นสูตรใหม่ๆได้หรือไม่?
=ได้แน่นอน

มีผลอย่างไร?
=ผลคืออาจจะได้ยาสูตรใหม่ หรือว่ายานั้นอาจจะรักษาได้ผลเร็วกว่ายาตัวเก่า[อธิบายไม่ถูกอ่ะ] อาจจะใช้เวลานานหน่อย

บางครั้งไม่ทำตามในทฤษฎีจะเกิดผลอย่างไร?
=แน่นอนว่ามันต้องมีทั้งผลดีและผลเสีย
ผลดี: อาจจะได้ยารักษาสูตรแปลกใหม่ที่สามารถรักษาได้ทุกโรค[ครอบจักรวาล]ถึงเเม้ว่ามันจะนานก็ตาม
ผลเสีย: มันอาจจะมีปฏิกิริยากับเราในขณะที่เรากำลังทำยาไม่เหมือนในทฤษฎี หรือมันอาจจะเป็นยาพิษก็ได้ และเราก็อาจจะต้องเสียเวลากับการปรุงยาเป็นเวลาหลายวัน

และนักปรุงยาควรทำตามขั้นตอนของทฤษฎีทุกครั้งหรือไม่?
=ไม่เสมอไป

เพราะอะไร?
=เพราะว่าบางครั้งเราอาจจะได้ยาเร็วกว่าในทฤษฎี

ความรู้ที่ได้อาจเป็นความรู้ใหม่ควรทำอย่างไร?
=จดขั้นตอนการทำไว้ในหนังสือทุกครั้ง หรือถ้าไม่จดก็เก็บตัวอย่างไว้ ถ้าเป็นนักปรุงยาที่เชี่ยวชาญจริงๆชิมแล้วก็อาจจะรู้ได้ว่ายาสูตรนี้ใส่อะไรบ้างเหมือนกับเชฟทำอาหาร

และถ้าเกิดข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างนักปรุงยาควรทำอย่างไร?
=คุยกันก่อนว่าจะทำอย่างไร ถ้าไม่ได้จริงๆก็ลองทำทุกทฤษฎีที่นักปรุงยาแต่ละคนต้องการ แล้วก็มาดูว่าคนไหนได้ยาอะไรบ้าง


ถ้าไม่ได้ 8 คะแนน ได้ซักคะแนนก็ยังดี 555+

คำถามข้อที่ 5 : นักปรุงยานั้นสามารถประยุกต์ในการคิดค้นสูตรใหม่ๆได้หรือไม่? มีผลอย่างไร? บางครั้งไม่ทำตามในทฤษฎีจะเกิดผลอย่างไร? และนักปรุงยาควรทำตามขั้นตอนของทฤษฎีทุกครั้งหรือไม่? เพราะอะไร? ความรู้ที่ได้อาจเป็นความรู้ใหม่ควรทำอย่างไร? และถ้าเกิดข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างนักปรุงยาควรทำอย่างไร?

ตอบ
1.นักปรุงยานั้นสามารถประยุกต์ในการคิดค้นสูตรใหม่ๆได้ =ได้
2.มีผลอย่างไร
= อาจจะได้ยาสูตรใหม่หรือยาที่ดีขึ้นจากยาชนิดเดิม ที่ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น แต่ในทาง ลบ คือได้ยาที่แย่ลง(จำพวกยาพิษ)หรือมีคุณภาพในทางลบยิ่งขึ้น
3.บางครั้งไม่ทำตามในทฤษฎีจะเกิดผลอย่างไร
= มีทั้งผลดีและเสีย
ดี คือ ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ มีความปลอดภัยยิ่งขึ้นและที่สำคัญประสิทธิภาพของยาจะออกไปทางดี(ถ้าหากปรุงไม่ผิดพลาดนะ)
เสีย คือ ความปลอดภัยที่ไม่สามารถรับรองได้ประสิทธิภาพของยาอาจจะดีกว่าเดิมหรือว่าแย่กว่าเดิมขึ้นอยู่กับการปรุงนาค่ะ
4.นักปรุงยาควรทำตามขั้นตอนของทฤษฎีทุกครั้งหรือไม่
= ไม่จำเป็น
5.เพราะอะไร
= ถ้าหากเรายังอยู่ในช่วงวัยเรียนหรือวัยที่จะหัดทำการปรุงยาสมควรทำตามทฤษฎีเพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าหากเป็นผู้เชี่ยวชาญละก็ทำตามก็ได้ไม่ทำก็ได้แล้วแต่คนปรุงค่ะ
6.ความรู้ที่ได้อาจเป็นความรู้ใหม่ควรทำอย่างไร
= ควรจดบันทึกไว้เช่นส่วนผสม สี หรือ เวลา เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการศึกษาต่อไปค่ะ และไม่ควรชิมยาสุ่มสุ่มห้าด้วยค่ะ
7.และถ้าเกิดข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างนักปรุงยาควรทำอย่างไร
= ควรหาเหตุผลหรือหาสิ่งอ้างอิงหาสิ่งที่ถูกต้องที่สุด เพื่อจะได้ปรุงยาออกมาไม่ผิดพลาดและได้คุณภาพด้วย

คำถามข้อที่ 7 : รากเดซี่ ในการปรุงยาทุกครั้ง ทุกสูตร (ยกเว้นน้ำยาแมคทิว) ควรหั่นและซอยเป็นชิ้นๆเท่ากันหรือไม่? เพราะอะไร?

ตอบ : เท่ากัน>>เพราะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่จะต้องใส่ลงไปในยา